เมื่อ พ.ศ. 2508 “ห้างหุ้นส่วนจำกัด สหยนต์” ได้เริ่มให้บริการขนส่งผู้โดยสารบนเส้นทาง เชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอน โดยการนำรถโดยสารของกลุ่มพี่น้องและเพื่อนๆมาให้บริการร่วมกัน ลักษณะของรถที่ให้บริการคือ รถคอกหมู เนื่องจากสภาพถนนเป็นถนนลูกรัง การเดินทางในแต่ละครั้งจึงใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง ในหนึ่งวันจึงสามารถเดินรถได้เพียงเที่ยวเดียวเท่านั้น

　ต่อมา พ.ศ. 2512 ได้มีการเปลี่ยนแปลงจาก ห้างหุ้นส่วนจำกัดมาเป็น บริษัทจำกัด โดยใช้ชื่อว่า “บริษัท ยานยนต์นครเชียงใหม่ จำกัด” มีการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการบริหารใหม่ และได้เริ่มจัดซื้อรถบัสโดยสารขนาด 57 ที่นั่ง จำนวน 15 คัน มาให้บริการขนส่งผู้โดยสาร มีการจัดตั้งสำนักงานของบริษัทฯ อยู่ที่ 96/3-4 ถนนสนามกีฬา ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ( เยื้องกับสถานีขนส่งช้างเผือก) ที่สำคัญคือได้รับสัมปทานเส้นทางการเดินรถบนเส้นทาง เชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอน จากสำนักงานขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ 4 ปีต่อมามีการจัดตั้งสำนักงานและอู่จอดรถที่อำเภอฝาง (ข้างโรงพยาบาลฝาง)

　เมื่อกิจการเจริญเติบโตขึ้น อู่ซ่อมบำรุงที่อยู่หลังสนามกีฬาเทศบาลนครเชียงใหม่มีพื้นที่จำกัด ไม่สามารถรองรับจำนวนรถที่เพิ่มขึ้นได้ จึงได้ย้ายอู่ซ่อมบำรุงของบริษัทฯ มาอยู่ที่หนองฮ่อ (หน้าสวนหลวง ร.9)

　พ.ศ. 2520 บริษัทฯ ได้จัดซื้อรถตู้จำนวน 6 คันให้บริการร่วมกับรถบัสที่มีอยู่ เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้โดยสาร ปรากฏว่าได้ผลตอบรับที่ดีจึงมีการซื้อรถตู้เพิ่มขึ้น และได้ย้ายอู่ซ่อมบำรุงอีกครั้งมาอยู่ที่ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม (หน้าวัดปิยาราม)

　เส้นทางการเดินรถจากเชียงใหม่ไปถึงฝางประมาณ 157 กิโลเมตร จากฝางไปท่าตอนประมาณ 23 กิโลเมตร ปัจจุบันใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง บริษัทฯ เห็นว่าควรมีจุดพักรถ จึงได้หาจุดพักรถที่เชียงดาว (หน้า 7-11 สาขาเชียงดาว) สำหรับพักรถและผู้โดยสารสามารถทำธุระส่วนตัวได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปจำนวนผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นทำให้จุดพักรถซึ่งเป็นเพียงบ้านหลังเล็กๆ ไม่สามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งหมด บริษัทฯ เล็งเห็นถึงความไม่สะดวกของผู้โดยสาร จึงได้ก่อสร้างจุดพักรถของบริษัทฯ ขึ้นเองที่บ้านวังจ๊อม ตำบลชียงดาว อำเภอเชียงดาว มีห้องน้ำสะอาด ร้านค้าและเครื่องดื่มให้บริการ อีกทั้งมีสวนสวยๆ ให้ชมไม้ดอกและไม้ประดับเพื่อความผ่อนคลายด้วย

　ระยะเวลากว่า 40 ปีที่ บริษัท ยานยนต์นครเชียงใหม่ จำกัด ได้รับความไว้วางใจในการให้บริการขนส่งผู้โดยสาร บริษัทฯ ได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ปัจจุบันนี้มีรถบัสขนาด 66 ที่นั่ง ไว้บริการผู้โดยสารทั้งหมดกว่า 40 คัน และรถตู้ปรับอากาศ VIP (Toyota Commuter) ที่พร้อมให้บริการผู้โดยสารจำนวนกว่า 20 คัน และยังมีบริการให้เช่าเหมารถทั้งรถบัสและรถตู้ปรับอากาศ พร้อมพนักงานขับรถที่มีความชำนาญ รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกภายในรถที่ครบครันคอยให้บริการอีกด้วย